ประธานซีแอลเอเผย สถานการณ์ลูกจ้างหยุดงานโดยไม่ได้รับเงินเดือนในช่วงนี้ จะไม่เลวร้ายไปกว่าสึนามิการเงินแน่นอน

  สถานการณ์นายจ้างให้ลูกจ้างหยุดงานโดยไม่จ่ายเงินเดือน ยังตกเป็นประเด็นร้อนที่หลายฝ่ายให้การจับตามอง โดยเฉพาะกรณีที่ข้อมูลของบริษัทหรือโรงงานที่สั่งพนักงานให้หยุดงานโดยไม่จ่ายเงินเดือนของคณะกรรมการการแรงงาน (ซีแอลเอ) กับภาคเอกชนมีความแตกต่างกัน โดยก่อนหน้านี้ทางซีแอลเอเผยว่า มีบริษัทและโรงงานที่ให้พนักงานหยุดงานโดยไม่ได้รับเงินเดือนรวม 12 แห่ง และมีผู้ได้รับผลกระทบรวม 2 พันกว่าคน ขณะที่สมาคมผู้ประกอบการไฟฟ้าและอิเลคทรอนิกส์ไต้หวัน แจ้งว่ามีทั้งสิ้น 63 แห่ง และมีผู้ได้รับผลกระทบเกินกว่า 3 หมื่นคน

                ต่อกรณีดังกล่าว นางหวัง หรูเสวียน ประธานคณะกรรมการการแรงงานเปิดเผยในวันที่ 9 พ.ย. ศกนี้ว่า ทางซีแอลเอจะต้องทำการตรวจสอบและพิสูจน์ข้อเท็จจริงหลังจากที่ได้รับแจ้งรายงานการสั่งให้หยุดพักงานโดยไม่จ่ายเงินเดือน ดังนั้น อาจทำให้ล่าช้าไปบ้าง แต่คณะกรรมการการแรงงานจะประกาศข้อมูลต่างๆ ตามความเป็นจริงโดยไม่ปิดบัง พร้อมย้ำว่า แม้ว่าจำนวนผู้ประกอบการที่ให้พนักงานหยุดพักงานโดยไม่จ่ายเงินเดือนจะเพิ่มขึ้น แต่สถานการณ์จะไม่เลวร้ายไปกว่าเมื่อครั้งเกิดสึนามิการเงินโลกในปี 22 แน่นอน

                  นางหวัง หรูเสวียน กล่าวว่า เมื่อครั้งเกิดสึนามิการเงินโลกเมื่อปี 2551 มีผู้ประกอบการให้พนักงานหยุดพักงานโดยไม่จ่ายเงินเดือนจำนวน 900 กว่าแห่ง ได้รับผลกระทบ 230,000 กว่าคนหรือเกือบ 240,000 คนซึ่งต่อมาเมื่อสถานการณ์เศรษฐกิจดีขึ้นพนักงานดังกล่าวก็นายจ้างก็ได้ทยอยรับกลับเข้าทำงานทั้งหมด  ขณะนี้ตัวเลขที่เรามีอยู่คือ 12 แห่ง ได้รับผลกระทบ 2,801 คน โดยแม้จะมีจำนวนเพิ่มขึ้น แต่เชื่อว่าสถานการณ์จะไม่เลวร้ายไปกว่าตอนที่เกิดสึนามิการเงินโลกเมื่อปี 2551 อย่างเด็ดขาด ซึ่งเราจะหาวิธีเพื่อช่วยเหลือแรงงานอย่างเต็มที่ พร้อมกันนี้ประธานซีแอลเอยังชี้ว่า หากตรวจพบผู้ประกอบการรายใด ให้แรงงานต่างชาติทำงานล่วงเวลาอย่างหนัก และให้แรงงานในประเทศหยุดพักงานโดยไม่ได้รับเงินเดือน จะสั่งยกเลิกใบอนุญาตว่าจ้างแรงงานต่างชาติของผู้ประกอบการายนั้นในทันที ส่วนโรงงานที่ให้พนักงานหยุดงานโดยไม่จ่ายเงินเดือน ทางซีแอลเอจะมีการตรวจสอบการขอนำเข้าแรงงานต่างชาติอย่างเข้มงวดเช่นกัน

ที่มา : mol.go.th